1. น้ำหนักนาฬิกา – นาฬิกาแท้จะใช้วัสดุที่มีคุณภาพ และโลหะมีค่าสูง ซึ่งจะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างแน่นอน ซึ่งหากเลือกใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพจะสัมผัสได้ทันทีว่าเป็นของปลอม

 

2. เช็คเลข Serial Number หรือเลขประจำตัวเครื่อง – โดย Serial Number จะไม่สามารถมีซ้ำกับสินค้าตัวอื่นๆ เพราะฉะนั้นถ้า Serial Number จากตัวเรือนและตัวกล่องไม่ตรงกัน หมายความว่าเป็นของปลอม

 

3. ใบรับประกัน – ใบรับรองอาจเป็นใบรูปแบบของใบ หรือการ์ด (Warranty Card) ที่สามารถตรวจสอบได้กับร้านนาฬิกาที่จำหน่าย โดยอาจทำการเช็กรายละเอียดต่างๆ เช่น แบบตัวอักษร หรือตำแหน่งข้อความที่ถูกต้อง

 

4. คู่มือการใช้งานเพื่อตรวจเช็คข้อมูลสินค้า – ควรตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย เช่น แบบตัวอักษรในคู่มือ การเทียบชื่อ หรือรุ่นนาฬิกาที่ใช้ตรงกับคู่มือการใช้งานหรือไม่

 

5. หน้าปัดนาฬิกา – โดยปกติกระจกหน้าปัดนาฬิกาของแท้จะใช้แร่ธาตุแซฟไฟร์ ที่มีราคาสูง และสามารถเช็กได้ด้วยการเอียงดูข้างๆ ตรวจดูการกรองสีที่ทะลุผ่านฝาใส ถ้าเห็นกระจกหน้าปัดที่ทำจากแซฟไฟร์ มักจะมีสีเจือม่วง เป็นตัวบ่งบอกว่าคือนาฬิกาแท้

 

6. เสียงเดินของเข็มเวลา – นาฬิกาแท้จะมีเสียงเดินของเข็มนาฬิกาที่เบาจนแทบไม่ได้ยินเสียงใดๆ นอกจากเสียงเข็มของนาฬิกาแล้วการเคลื่อนตัวของเข็มนาฬิกาก็เป็นส่วนสำคัญ การมีรูปทรงและขนาดที่ถูกต้อง เดินได้ตรงจังหวะ หากเป็นนาฬิกาปลอม อาจมีข้อผิดพลาดทำใหการเคลื่อนตัวของเข็มสั่นหรือไม่เสถียรได้